เข้าสู่ฤดูร้อนกันแล้วนะครับสำหรับประเทศไทย ถึงจะบอกว่าเป็นฤดูร้อนแต่ประเทศเราก็เจอกับพายุบ่อยนะครับทำให้การปั่นข้างนอกนั้นอาจจะไม่สะดวก ไหนจะปัญหาฝุ่น PM2.5 อีก และแน่นอนว่าเผลอแป๊บเดียวเราจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนอย่างเต็มตัวครับ พี่ๆ หาเทรนเนอร์ติดบ้านไว้สักตัวกันหรือยังเอ่ย ฮ่าๆ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการให้ตัวของเทรนเนอร์กัน

อย่างที่หลายคนรู้นะครับว่า Kurt Kinetic ของเรานั้นขึ้นชื่อเรื่องการโยกปั่นได้เสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี Rock & Roll ในรุ่น R1 และ Rock & Roll Smart 2 แต่ก็มีหลายคนสงสัยว่ามันจะไม่ส่งผลเสียอะไรต่อเฟรมจักรยานเหรอ? วันนี้เราจะมาอธิบายให้ดูกันครับ

การปั่นจักรยานบนเทรนเนอร์สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มีเทรนเนอร์แบบ Direct drive นั้น หลายๆ คนอาจจะได้ยินกันมาบ้างว่าการปั่นเทรนเนอร์หนักๆ ส่งผลเสียต่อเฟรมจักรยานโดยเฉพาะเฟรมคาร์บอน ส่วนที่ส่งผลกระทบหนักสุดเลยก็คงหนีไม่พ้นส่วนหางหลัง หรือ Seat Stay, Chain Stay แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้ส่งผลเสียแค่ส่วนนั้น

หากในกรณีที่ผู้ปั่นนั้นมีน้ำหนักตัวเยอะและปั่นอย่างหนักหน่วงมาก ผลกระทบมันจะเกิดในส่วนอื่นๆ ได้อีกด้วย  เพราะว่าเทรนเนอร์จะล็อกให้จักรยานของคุณให้นิ่งและติดอยู่กับเทรนเนอร์เลย ตามธรรมชาติของนักปั่นในการปั่นก็จะมีการโยกจักรยานแน่นอน เช่น เวลาเราสปรินต์หรือยืนโยกเพื่อทำความเร็วเพื่อแซง เพราะฉะนั้นหากเรามาปั่นบนเทรนเนอร์แล้วโยกจักรยานหนักๆ ก็อาจจะทำความเสียหายต่อเฟรมได้นั่นเอง

นอกจากนี้แล้วการที่เทรนเนอร์จักรยานสามารถโยกได้ยังส่งผลดีต่อผู้ปั่นด้วย เช่น การฝึกทรงตัวในขณะที่ปั่น การใช้เทรนเนอร์ที่โยกปั่นได้ทำให้เรานั้นต้องคอนโทรลตัวเองอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการทรงตัวของเราให้นิ่งในขณะที่ปั่นหรือตอนสปรินต์ และการฝึกทรงตัวยังช่วยให้ผู้ปั่นนั้นได้กล้ามเนื้อส่วนท้องที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แน่นอนว่ามันสามารถพัฒนาทักษะส่วนตัวและนำไปใช้ในการปั่นจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พี่ป๊อก Sales marketing & Bike Fitter จาก TOP GEAR Cycling และ Optima Bike Fitting Lab ก็ได้บอกถึงเรื่องของความเสียหายในส่วนเฟรมเช่นเดียวกันว่า การปั่นหนักๆ บนเทรนเนอร์ที่ไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาซัพพอร์ทการโยกหรือการส่งแรงหนักๆ นั้นอาจส่งผลให้เฟรมได้รับการเสียหายได้แน่นอนไม่ช้าก็เร็วขึ้นอยู่กับว่าคุณปั่นหนักแค่ไหน

การที่เลือกเทรนเนอร์ที่มีเทคโนโลยีที่มันสามารถโยกได้ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เช่น Kinetic R1 ที่มีข้อดีตรงที่ได้เทคโนโลยี Rock & Roll สามารถทำให้การปั่นนั้นมีประสิทธิภาพและสามารถปั่นได้เสมือนจริงเป็นธรรมชาติที่สุด นอกจากนั้นการโยกได้ยังช่วยรักษาเฟรมของคุณได้ดีกว่าเทรนเนอร์ที่โยกไม่ได้แน่นอน ผลกระทบที่เกิดจากแรงกระทำที่ตะส่งมายังเฟรมจะน้อยกว่าเพราะถูกส่งไปยังเทรนเนอร์ที่มันมีระบบโยกเพื่อซัพพอร์ทแรงเหล่านั้นไปแล้วนั่นเอง

นอกจากนี้แล้วพี่ป๊อกยังบอกอีกว่า การที่เทรนเนอร์ให้ตัวได้เสมือนจริงและปรับระดับความชันได้สมจริงแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีมากเพราะจะช่วยให้นักปั่นนั้นได้พัฒนาทักษะที่สามารถนำไปปั่นจริงนอกสถานที่ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นักไตรกีฬาที่มาทดลองกับทาง TOP GEAR Cycling กล้าพูดได้เลยว่าเทรนเนอร์นี้ปั่นได้อย่างธรรมชาติและโยกได้อย่างไหลลื่นมากๆ สรุปแล้วคือการที่โยกปั่นได้นั้นไม่ได้ส่งผลเสียอะไรเลยต่อเฟรมจักรยานแต่กลับส่งผลดีต่อเฟรมจักรยานและตัวผู้ปั่นเองอีกด้วย