ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วจักรยานได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นการใช้เดินทาง ใช้เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หรือแม้กระทั่งเป็นของเล่นสำหรับเด็ก ในอดีตนั้นจักรยานเคยเป็นยานพาหนะที่มีมากกว่ารถยนต์มากถึงสองเท่าถึงขั้นเป็นการคมนาคมขั้นพื้นฐานเลยก็ว่าได้

จักรยานในยุคแรกก็ยังคงมีหน้าตาเหมือนจักรยานแม่บ้านที่มีล้อหน้าใหญ่มากๆ ต่อมาจักรยานก็ได้รับการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีต่างๆ ให้ตอบสนองการใช้งานที่มากขึ้นและเพื่อใช้สำหรับการแข่งขันได้อย่างดีและแน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เจ้าจักรยานทุกๆ คันขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของเทคโนโลยีของการดีไซน์เฟรมหรือชุดเกียร์ที่ดี แต่ยังมีในเรื่องของเทคโนโลยียางเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย

สมัยก่อนเมื่อตอนยังเป็นเด็ก หลายๆ คนคงอาจจะเคยเข็นจักรยานไปร้านซ่อมรถตอนยางรั่วกันบ้างแหละครับ ฮ่าๆ ในตอนนั้นก็คงไม่มีใครคิดว่ายางนั้น “มีหลายประเภท” คงคิดว่ายางก็คงมีแค่แบบเดียวที่ต้องมีใส้ยางข้างในที่เรียกว่า “ยางใน” และยางเส้นหนาๆ ใหญ่ๆ ที่เรียกว่า “ยางนอก” แต่ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีของยางได้พัฒนาไปได้ไกลมากๆ แล้ว ถึงจะเป็นแค่ยางงัดธรรมดา (ยาง Tyres) ก็เถอะแต่ก็มีให้เลือกหลายแบบซะเหลือเกิน นอกจากยางงัดแล้วก็ยังมียางประเภทอื่นอีก บางแบรนด์อย่างเช่น ยาง Tufo เนี่ยมียางให้เลือกมากถึง 4 ประเภทกันเลยทีเดียว คือ Tyre , Tubular , Tubular Clincher , Tubeless

โดยวันนี้เราจะยังไม่พูดถึงยางงัดที่เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาเรากันมานานแสนนาน แต่เราจะมาพูดถึงยางฮาล์ฟกันครับ อธิบายคร่าวๆ สำหรับยางฮาล์ฟหรือที่ใครหลายๆ คนเรียกว่ายาง Tubular คือยางที่เป็นยางนอกและยางในนั้นรวมเป็นเส้นเดียวกันไปเลยและไม่มีขอบยาง การใช้ยางประเภทนี้ยังต้องใช้ล้อเฉพาะที่มีการติดตั้งโดยการใช้เทปกาวเฉพาะของยางฮาล์ฟและการอัดน้ำยากันรั่วเข้าไปเมื่อเติมลมอีกด้วย ข้อดีของยางประเภทนี้ที่ทำให้นักปั่นหลายคนนั้นนิยมใช้กัน คือ น้ำหนักที่เบาและให้กำลังเร่งได้ดีกว่ายางงัด เพราะว่าเป็นยางเส้นเดียวเพียวๆ ไม่เกิดการเสียดสีหรือหน่วงภายในยางทำให้ปั่นแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าพุ่งกว่ายางงัดแน่ๆ อีกทั้งโครงสร้างของยางยังอำนวยต่อการเข้าโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้ความนุ่มนวลในการปั่นที่มากกว่ายางประเภทอื่น หมดปัญหาเรื่องของยางรั่วในกรณีขอบล้อกัดยางในอีกด้วย

แต่เมื่อพูดถึงในยุคปัจุบันส่วนใหญ่ยางฮาล์ฟจะถูกนำไปใช้ในการแข่งขันเสียมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มียางฮาล์ฟที่ถูกทำมาเพื่อการซ้อมหรือใช้ในชีวิตประจำวันนะเออ ในแบรนด์ Tufo นั้นมียางฮาล์ฟที่ใช้สำหรับการซ้อมปั่นหรือใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย คือรุ่น S33 PRO ซึ่งเป็นยางฮาล์ฟราคาน่าคบหาคุณภาพเกินราคาสำหรับผู้ที่อยากใช้ยางฮาล์ฟแต่ไม่ได้ใช้แข่งขันแต่อยากสัมผัสความนุ่มนวลและการเกาะถนนที่เยียมยอดในตอนปั่น

บางท่านแค่เห็นยางก็คงอาจจะไม่รู้ใช่ไหมครับว่ายางนั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ชั้นไหนเป็นแผ่นอะไรช่วยเรื่องอะไร มาดูเทคโนโลยีของยางอาล์ฟ (Tubular) S33 Pro กันครับ โดยขั้นตอนแรกให้พี่ๆ นึกถึงท่อยางที่มีลักษณะเป็นท่อกลมๆ ชั้นนอกสุดนั้นคือส่วนหน้ายางที่ต้องสัมผัสกับถนน จะมีแถบ Tread ข้างๆ หน้ายางช่วยในเรื่องของการเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น พูดง่ายๆ มันคือดอกยางนั่นแหละครับ ถัดลงมาชั้นใน การที่ยางฮาล์ฟ S33 Pro ของ Tufo นั้นมีความทนทานคือชั้นนี้ที่มีชั้นยาง Protective rubber ply และ Puncture proof ply โดยจะอยู่ภายใต้หน้ายางตรงกลางลงมาอีกชั้นนึงทำหน้าที่เพื่อป้องกันการสึกหรอหรือบ่งบอกการสึกหรอของหน้ายางเมื่อใช้ไปนานๆ และยังทำหน้าที่ป้องกันการรั่วซึมของยางเวลาปั่นในชีวิตประจำวันที่เราต้องพบเจอกับก้อนหินหรือเศษไม้ที่มีความแหลมคมต่างๆ อีกด้วย

ถัดเข้ามาชั้นในอีกคือยางชั้น Carcass ที่ทำหน้าที่ปกป้องยางเสริมยางให้มีความทนทานที่มากขึ้นเหมือนกันแต่ในชั้นนี้ไม่ได้มีเฉพาะหน้ายางแต่จะครอบคลุมไปทั้งเส้นของยางเลยทีเดียว แก้มขอบยางนั้นก็ถูกจัดอยู่ในชั้นนี้เพียงแต่ว่ามีการเสริมแผ่นยางในการพิมพ์ลายแบรนด์ยางและค่าต่างๆ เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่าการจุลม (p.s.i) ทิศทางในการใส่ยาง การหมุน (rotation) เป็นต้น มาถึงชั้นในสุดมีลักษณะเป็นท่อยางอยู่ภายในนั่นเองทำหน้าที่ในการจุลมซึ่งทำจากวัสดุพิเศษที่เรียกว่า Special butyl-rubber compound ทำให้ลมยางนั้นซึมออกได้ยากและไม่ต้องเติมลมยางบ่อยๆ

ทั้งหมดทุกชั้นนี้จะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันผ่านกระบวนการที่มีคุณภาพของแบรนด์ Tufo ทำให้ยาง S33 Pro นั้นออกมาเป็นยางฮาล์ฟที่มีความทนทานสูงในการใช้งาน มาสรุปคร่าวๆ เกี่ยวกับยางฮาล์ฟ S33 Pro กันดีกว่า รุ่นนี้เป็นยางฮาล์ฟที่ทำมาเพื่อการใช้ในการฝึกซ้อมหรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องกลัวแตกกลัวรั่ว เพราะสำหรับความคงทนนั้น เต็ม 100% รุ่นนี้ได้ไปเต็ม 100 เลยเรียกได้ว่าทนทานหายห่วง แต่ถ้าหากนำไปใช้แข่งก็อาจจะหนักหน่วงไปหน่อยครับ

S33 Pro มีให้เลือก 2 ไซส์ คือ ขนาด 21 มีน้ำหนักอยู่ที่ 210 กรัม จุลมได้ 8–12 bar (115–175 p.s.i.) กับ ขนาด 24 มีน้ำหนักอยู่ที่ 310 กรัม จุลมได้ 6–8 bar (90–115 p.s.i.) ส่วนค่าต่างๆ จะจัดอยู่ในระดับกลางประมาณ 60% ไม่ว่าจะเป็นค่า Durability (ความทนทาน) , Protection (การป้องกัน) , Comfort (ความสะดวกสบายความนุ่ม) , Weight (น้ำหนัก) รุ่นนี้จะเติมลมได้เยอะและแข็งแรงมากอีกทั้งยังสามารถถอดวาล์วเติมน้ำยาได้อีกด้วยเพื่อป้องกันการรั่วซึมของยางเวลาปั่นนั่นเอง มีขอบแก้มยางให้เลือกสองสี คือ สีดำและสีเบจ หากนักปั่นท่านใดกำลังมองหายางฮาล์ฟราคาเป็นมิตรใช้ปั่นซ้อมหรือในชีวิตประจำวันได้อย่างเยี่ยมยอดก็ต้องขอฝาก Tufo ไว้เป็นทางเลือกในดวงใจ รับรองว่าใช้ S33 Pro ไม่มีผิดหวังครับ